Honey Boy เด็กชายผิวสีน้ำผึ้ง (2019)

Honey Boy เด็กชายผิวสีน้ำผึ่ง (2019)

Honey Boy

From a screenplay by Shia LaBeouf, based on his own experiences, award-winning filmmaker Alma Har’el brings to life a young actor’s stormy childhood and early adult years as he struggles to reconcile with his father through cinema and dreams. Fictionalizing his childhood’s ascent to stardom, and subsequent adult crash-landing into rehab and recovery, Har’el casts Noah Jupe and Lucas Hedges as Otis Lort, navigating different stages in a frenetic career. LaBeouf takes on the daring and therapeutic challenge of playing a version of his own father, an ex-rodeo clown and a felon. Artist and musician FKA Twigs makes her feature-film debut, playing neighbor and kindred spirit to the younger Otis in their garden-court motel home. Har’el’s feature narrative debut is a one-of-a-kind collaboration between filmmaker and subject, exploring art as medicine and imagination as hope.

เด็กชายผิวสีน้ำผึ้ง ในปี 2548 โอทิสลอร์ต (ลูคัสเฮดจ์) เป็นดาราภาพยนตร์ที่มีปัญหาแอลกอฮอล์รุนแรง เขาชนรถของเขาและเข้าปะทะกับตำรวจอย่างรุนแรง เขาถูกบังคับให้ต้องไปที่สถานบำบัดที่ซึ่งดร. โมเรโน (ลอร่าซานเกียโคโม) ที่ปรึกษาของเขาบอกเขาว่าถ้าเขาออกจากสถานที่ก่อนที่พวกเขาจะบอกว่าเขาพร้อมศาลจะส่งเขาเข้าคุกเพราะความรุนแรง เธอบอกว่าขึ้นอยู่กับสิ่งที่เธอพบว่าโอทิสมีพล็อตซึ่งเขาปฏิเสธซ้ำ ๆ แต่เธอกระตุ้นให้เขามองอดีตของเขาผ่านการบำบัดด้วยการสัมผัส

รีวิวหนังHoney Boy เด็กชายผิวสีน้ำผึ้ง 2019

เกริ่นก่อนว่า ใคร ที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ไม่ควรพลาด ซึ่งคนที่ กำกับหนังเรื่องนี้คือผู้กำกับสายอาร์ตชาวอิสราเอล ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ

Honey Boy  คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของชีวิตของเด็กหนุ่มกับพ่อของเขาซึ่งมีปัญหากันตลอดเวลาจนกระทั่งไม่คุยกันถึง7 ปี และเขาทั้งคู่ได้กลับมาคุยกันและคืนดีกันอีกครั้งซึ่งหนังเรื่องนี้ก็จะพาทุกคนไปดูแลเสัมผัสถึงกลิ่นอายความรัก ความรู้สึกของทั้งคู่รวมถึงความไม่ชอบความเกลียดชังที่เด็กหนุ่มมีต่อพ่อของเขาว่าจะเป็นอย่างไร

เปิดเรื่องมา โอทิส ลอร์ต ซึ่งเขาเป็นนักแสดงในวงการบันเทิงแต่ด้วยเค้ามักจะควบคุมพฤติกรรมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้และรวมไปถึงสร้างวีรกรรมสร้างปัญหาให้กับตัวเองและคนรอบข้างอยู่ตลอดทำให้วงการบันเทิงที่เขารักอาจจะไปได้ไม่ค่อยดีนักถึงขั้นเข้าพบหมอจิตแพทย์เพื่อมาตรวจดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลมาจากเรื่องราวในชีวิตวัยเด็กที่ต่างจากเด็กคนอื่นทั่วไปเพราะเขานั้นโดนพ่อคอยบงการชีวิตหรือบังคับเขาตลอดในช่วงเวลาของวัยเด็ก

ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่อยากจะเชื่อกับคำพูดของหมอที่เขาได้ไปพบและได้แต่นั่งทบทวนเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างซึ่งเป็นการเล่าในอดีตและปัจจุบันแบบดีมากๆแน่นอนว่าทั้งภาพและฉาก ก็ลงตัวสุดสุดแต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกของประโยคที่ว่าพ่อแม่รังแกฉันซึ่งจะพบได้บ่อยในเหตุการณ์ปัจจุบันที่ใครหลายหลายคนอาจจะเจอและไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของเด็กเหล่านี้ได้เปรียบเสมือนคนที่ทำร้ายเด็กโดยไม่รู้ตัวเปรียบเสมือน ผ้าขาวที่ต้องมาคอยแปดเปื้อนกับความคิดของผู้ใหญ่นั่นเอง

เรื่องนี้ให้คะแนนโดยรวม9/10 ซึ่งประกอบไปด้วยนักแสดงที่มีคุณภาพความสนุกที่น่าติดตามแปลกใหม่และบทละครของตัวละครต่างๆ